วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วันกองทัพไทย


ภาพ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยุทธหัตถี"
จาก  http://catadmin.cattelecom.com/km/blog/choosiri/wp-content/uploads/2006/10/image4.gif
 
 ความเป็นมาของวันกองทัพไทย
ในสมัยอดีตประเทศไทยเป็นประเทศที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเป็นอย่างมากเนื่องจาก พระมหากษัตริย์ไทยในอดีตทรงเป็นผู้นำทัพเพื่อต่อสู้เพื่อเอกราชของชาติไทยมานานหลายสมัย จนกระทั่งถึงสมัยสมเด็จพระเนรศวรมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เป็นศูนย์รวมจิตใจ กำลังใจและความภาคภูมิใจในการต่อสู้เพื่อเอกราชเพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะเหตุการณ์ในครั้งที่พระองค์ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะแก่พระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี เมื่อวันจันทร์ แรม ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง ณ ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งถือว่าเป็นชัยชนะที่สำคัญของไทยเลยก็ว่าได้เพราะพระองค์ทรงกล้าหาญ มีไหวพริบในการทำศึกจนเป็นที่กล่าวขานแก่คนในชาติและประเทศที่อยู่ใกล้เคียง

เมื่อครั้งที่ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อ พ.ศ.2523 ได้มีมติร่วมกับคณะรัฐมนตรีกำหนดให้วันที่ 25 มกราคม ของทุกปีโดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2524 เป็นวัน กองทัพไทยซึ่งตรงกับวันกระทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเศวรมหาราช เพื่อเป็นวันที่รำลึกถึงความภาคภูมิใจในความกล้าหาญของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตที่ทรงเสียสละชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อกอบกู้เอกราชชาติไทย

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 คณะรัฐมนตรีได้ลงอนุมัติให้วันที่ 18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันยุทธหัตถี และเป็นวันรัฐพิธีแทนวันที่ 25 มกราคม ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับหลักฐานที่ราชบัณฑิตยสถานและคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติเสนอ ดังนั้นคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2549 เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอโดยให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยจากวันที่ 25 มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่ 18 มกราคม ของทุกปีและอนุมัติให้เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหมเริ่มใช้ ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2550 เป็นต้นไป

ปัจจุบัน (รัชการที่ ๘ – ๙) กองทัพไทยได้พัฒนาเพิ่มขึ้นเป็นอันมาก ประกอบด้วยกำลังครบทั้งสามเหล่า คือ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ การพัฒนาด้านต่างๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนมีศักยภาพสูง และมีบทบาทเป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก

ภาพ "ทหารบก"  จาก http://web.schq.mi.th/~j5/heart/031049.htm

  ภาพ  "ทหารเรือ"  จาก http://ads.dailynews.co.th/news/images/2006/variety/11/16/107562_41412.jpg


ภาพ "ทหารอากาศ"  จาก  http://www.daoc.rtaf.mi.th/default.php?table=&&actpage=7#act
บทบาทกองทัพไทย
การป้องกันประเทศ
กองทัพไทยมีหน้าที่สำคัญคือการป้องกันประเทศทั้งในยามสงบและยามที่เกิดภัย โดยจัดให้มีการฝึกกำลังรบอยู่เป็นประจำ ป้องกันภัยทั้งในประเทศและนอกประเทศ รักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านให้มีความสงบไม่เกิดปัญหาซึ่งกันและกัน จัดกำลังป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย อบรมราษฎรในพื้นที่เพื่อสามารถป้องกันตนเองได้

ส่งเสริมการปกครอง
กองทัพไทยมีความสำคัญในการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนชาวไทยรักชาติ รักษาความมั่นคงความสงบสุขของสังคม โดยช่วยกันสอดส่องดูแล ให้ความรู้เรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตย ข่าวสารต่างๆแก่ประชาชน ทั้งนี้กองทัพไทยยังป้องกันตามชายแดนเพื่อแก้ปัญหาการลำเลียงยาเสพติดที่เป็นภัยต่อประเทศชาติอีกด้วย


ภาพ "ทหารรักษาพระองค์" จาก http://www.do.rtaf.mi.th/Library/Images/FullKG.jpg
การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่สูงสุดและสำคัญสำหรับประชาชนทั้งนี้ยังเป็นสถาบันที่สำคัญยิ่งแก่เหล่าทหารเพราะพระมหากษัตริย์ทรงเป็นมิ่งขวัญแก่เหล่าทหารเทิดทูนไว้เหนือเกล้าฯ กองทัพไทยจึงมีส่วนสำคัญในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในโอกาสวันเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาของทุกปี กองบัญชาการทหารสูดสุดได้จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน ณ สวนสนามทหารรักษาพระองค์

การรักษาผลประโยชน์ของคนในชาติ
กองทัพไทยมีบทบาทสำคัญในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทั้งทางบกและทางทะเล ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าแก้ปัญหาความขัดแย้งเรื่องการประมง พื้นที่ทำมาหากิน บรรเทาสาธารณภัยเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย แก้ปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น เช่นการเกิดภัยแล้งก็ปฏิบัติการฝนหลวงตามโครงการพระราชดำริ

ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
สอดส่องดูแล รักษา ปกป้อง ทรัพยากรทางธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย พร้อมทั้งส่งเสริมจัดกิจกรรมต่างขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนมีสำนึกที่ดี ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไว้ ทั้งนี้กองทัพยังมีหน้าที่ในการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญโดยพัฒนาทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วย
กองทัพไทยในปัจจุบัน
กองทัพไทยได้กำหนดนโยบายเพื่อความมั่นคงแห่งชาติไว้ ดังนี้ (จาก http://www.schq.mi.th/military_history.pdf สืบค้น 17 ม.ค. 2551 )
๑. เพื่อป้องปราม ป้องกันและต่อสู้เอาชนะภัยคุกคามจากภายนอกประเทศ
๒. เพื่อรักษาความมั่นคงภายในประเทศและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประชุม
๓. เพื่อป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบภายในประเทศ
๔. เพื่อสนับสนุนและร่วมในการพัฒนาประเทศ การช่วยเหลือประชาชน และการบรรเทาสาธารณภัย
๕. เพื่อคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติ
๖. เพื่อร่วมมือกับมิตรประเทศตามนโยบายของรัฐบาลในการรักษาสันติภาพและการป้องกันร่วมกัน
กิจกรรมในวันกองทัพไทย
ในวันนี้เหล่ากองทัพได้ทำกิจกรรมคือ พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล หรือที่นิยมเรียกว่า "สวนสนามสาบานธง" ซึ่งเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหารทุกคน และเพื่อเป็นการระลึกถึงวีรกรรมและเป็นการสักการะดวงวิญญาณนักรบไทย จะมีพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์ทางทหาร เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ทหารอาสา อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ฯลฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น